MENU

Privacy Policy

นโยบายความเป็นส่วนตัว


รายละเอียดทั่วไป
ระเบียบปฏิบัติการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดและเป็นแนวทางในการเก็บรวบรวม จัดเก็บรักษา ใช้ รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล อย่างถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภัย เพื่อปกป้องสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ ลูกค้า ผู้ใช้บริการ พนักงาน หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ซึ่งมีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลมายังบริษัทฯ โดยตรง หรือผ่านระบบข้อมูลสารสนเทศของบริษัทฯ และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามข้อกำหนดใน พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

คำจำกัดความ
บริษัทฯ หมายถึง บริษัท ฮาบิ 32 จำกัด โดยให้รวมถึงผู้ซึ่งได้รับมอบอำนาจให้กระทำการแทนบริษัทฯ หรือผู้ได้รับมอบหมายให้ทำงานในนามบริษัทฯ
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
ผู้ที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการ หมายถึง ผู้ที่ผู้บริหารสูงสุดมอบหมายให้ดูแลรับผิดชอบและปฏิบัติงาน
คุกกี้ (Cookies) หมายถึง ชิ้นส่วนข้อมูลเล็ก ๆ ที่เก็บอยู่ในอุปกรณ์ของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการหรือผู้มีส่วนได้เสีย ที่จะทำให้เว็บไซต์ สามารถจดจำข้อมูลการเข้าถึงเว็บไซต์หรือวิธีใช้งานเว็บไซต์ในแต่ละครั้ง

การเคารพสิทธิในความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ เคารพและให้ความสำคัญถึงสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและตระหนักดีว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลย่อมมีความประสงค์ที่จะได้รับความมั่นคงปลอดภัยในการใช้บริการ ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ และ/หรือ กลุ่มบริษัทฯ ได้รับมา เช่น ชื่อ อายุ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลทางการเงิน เป็นต้น ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของเจ้าของข้อมูลได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และมีคุณภาพ จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทฯ เท่านั้น โดยจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน ทั้งนี้บริษัทฯ จะแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่เจ้าของข้อมูลทันทีที่เกิดเหตุละเมิด

การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากหลากหลายช่องทาง ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บอาจประกอบไปด้วยข้อมูลชนิดต่าง ๆ ดังนี้

ข้อมูลที่ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการหรือผู้มีส่วนได้เสียให้ไว้โดยตรง ได้แก่
1. ข้อมูลติดต่อส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล
2. ข้อมูลในการยืนยันตัวตน เช่น ชื่อผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หมายเลขบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง
3. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ได้แก่ วัน/เดือน/ปีเกิด เพศ อายุ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา รูปภาพ
4. ข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งปรากฎอยู่ในแบบฟอร์มในการกรอกข้อมูล รวมถึงเอกสารที่ใช้ประกอบแบบฟอร์ม

ข้อมูลที่ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการหรือผู้มีส่วนได้เสียใช้บริการ ได้แก่

1. ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) ได้แก่ หมายเลขไอพี วัน เวลาที่เข้าใช้งาน รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลเครือข่ายมือถือ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ประเภทของเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกเว็บไซต์ ข้อมูลเว็บไซต์ที่ผู้ใช้งานเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลบันทึกประวัติการใช้เว็บไซต์ ข้อมูลบันทึกการเข้าสู่ระบบ (Login Log) ข้อมูลรายการทำธุรกรรม (Transaction Log)
2. ข้อมูลการบันทึกเสียง เมื่อมีการติดต่อเข้ามายังบริษัทฯ หรือบันทึกรายละเอียดการติดต่อ
3. ข้อมูลซึ่งเกิดจากการวิเคราะห์และรวบรวมสถิติในการใช้บริการหรือใช้งานระบบ เช่น พฤติกรรมการใช้งาน (Customer Behavior) สถิติการเข้าเว็บไซต์ เวลาที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ (Access Time) ข้อมูลที่มีการค้นหา การใช้ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ในเว็บไซต์ และข้อมูลที่บริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies)

บริษัทฯ ทำการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัท ฯ อันชอบด้วยกฎหมาย และเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นต่อการดำเนินงานเท่านั้น อาทิ

1. ใช้สำหรับทำรายการ / กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
2. ใช้เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย จัดทำสถิติ
3. ใช้เพื่อพัฒนาการให้บริการ จัดทำการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์ การส่งจดหมายข่าวผลิตภัณฑ์ โปรโมชั่นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของบริษัทฯ
4. ใช้ปรับปรุง พัฒนา เพิ่มประสิทธิภาพของการดำเนินงานของบริษัทฯ
5. ใช้สำหรับรับเรื่องร้องเรียน แนะนำ ติชม หรือแสดงความคิดเห็น
6. ใช้สำหรับติดต่อเจ้าของข้อมูลผ่านช่องทางใด ๆ เพื่อสอบถาม แจ้งให้ทราบ ตรวจสอบ ยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูล หรือสำรวจความคิดเห็นตามความจำเป็น
7. ใช้สำหรับตรวจสอบข้อมูล เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย สอดคล้องกับกฎหมาย หลักเกณฑ์ กฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่มีการใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต

หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะแจ้งหรือประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของข้อมูลรับทราบโดยไม่รีรอ ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทฯ กระทำได้โดยรับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้มีส่วนได้เสีย แล้วเท่านั้น เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่น หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ที่บริษัทมีต่อลูกค้า บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ตัวแทน บริษัทย่อย หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่ภายในหรือภายนอกประเทศไทย เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามการวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บ นำไปใช้ เปิดเผย และดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้แจ้ง นอกจากนี้บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ แนวทาง ระเบียบ หรือระบบการจัดการที่บังคับใช้กับบริษัท โดยบริษัทฯ จะกำหนดให้หน่วยงานบุคคลที่สามดำเนินการเก็บรักษาความลับ ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และกำหนดข้อห้ามมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้ เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจากวัตถุประสงค์ตามที่บริษัทฯ กำหนด ซึ่งตัวอย่างบุคคลที่สามที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ทราบ มีดังนี้

1. ผู้ให้บริการนำเข้าข้อมูล
2. ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ผู้ให้คำปรึกษา และ/หรือ ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก 3. ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการด้านการบริหาร หรือด้านการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท เช่น การสื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศ โลจิสติกส์ การส่งสินค้า การประกอบ การติดตั้ง การพิมพ์ การบริการทางไปรษณีย์ หรือบริการด้านการตลาด และกิจกรรมส่งเสริมการขาย

เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
บุคคลที่สามที่บริษัทดำเนินธุรกิจด้วยมีสิทธิในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในสัญญาที่ทำกับบริษัทเท่านั้น โดยข้อกำหนดส่วนหนึ่งของสัญญาที่บริษัททำกับบุคคลที่สามเหล่านี้กำหนดให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายใด ๆ ตามที่บริษัทกำหนด และบุคคลเหล่านี้จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและปลอดภัย
บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเป็นระยะเวลาตามความเหมาะสมต่อการใช้งาน ซึ่งได้มีการกำหนดระยะเวลา (Retention Period) ไว้อย่างชัดเจนตามชนิดของข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว บริษัทฯ จะทำการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันที

การใช้หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
1. บริษัทฯ รับรองว่าจะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการหรือผู้มีส่วนได้เสียที่มีการเก็บรวบรวมไว้ ไปใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจากตามวัตถุประสงค์การใช้อันชอบด้วยกฎหมายหรือเพื่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
2. บริษัทฯ จะไม่นำข้อมูลดังกล่าวไปจำหน่าย ถ่ายโอน หรือเผยแพร่ให้กับบุคคลภายนอก เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลเท่านั้น
3. บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หากเป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือตามคำสั่งขอหน่วยงานของรัฐ เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวน สอบสวนของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือการพิจารณาคดีของศาล

สิทธิในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิ์ต่างๆ ดังนี้
1. ขอทราบข้อมูล ลบ แก้ไข หรือขอตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลของตน
2. ขอไม่รับข้อมูลการสื่อสารทางการตลาดใด ๆ จากบริษัทฯ
3. ขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของตนไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถ ทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติโดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งความประสงค์ และระบุตัวตนที่แท้จริงโดยเป็นลายลักษณ์อักษรส่งมายังบริษัทฯ เมื่อบริษัทฯ ได้รับคำร้องดังกล่าว บริษัทฯ จะแจ้งถึงความมีอยู่หรือรายละเอียดของข้อมูลให้ทราบภายในระยะเวลาที่อันสมควร
คำร้องขอตามสิทธิ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการพิจารณา และจดบันทึก ทั้งนี้บริษัทฯ จะพิจารณาดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ก็ต่อเมื่อได้ตรวจสอบแล้วว่าไม่ขัดต่อข้อกำหนดใด ๆ ของกฎหมายซึ่งบริษัทฯ พึงต้องปฏิบัติตาม

ความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อให้การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปอย่างปลอดภัยและเหมาะสม บริษัทฯ ได้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านต่าง ๆ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยปราศจากการไม่ได้รับอนุญาตหรือโดยมิชอบ หากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งก่อให้เกิดผลความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง บริษัทฯ จะทำการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงเหตุการณ์ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุดเพื่อระงับความเสียหาย และจะดำเนินการตรวจสอบสาเหตุพร้อมทั้งกำหนดมาตรการเยียวยาอย่างเหมาะสมให้แก่ผู้เสียหาย

การติดต่อ
บริษัทฯ ได้มีการจัดตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลให้มีการปฏิบัติตามนโยบายฉบับนี้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือผู้มีส่วนได้เสียมีข้อสงสัยเกี่ยวกับนโยบายฉบับนี้หรือต้องการส่งคำร้องตามสิทธิใด ๆ สามารถติดต่อได้ที่ 081-9111-924 หรือเว็ปไซต์ของบริษัทฯ www.narathip.com

การทบทวนนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของบริษัทฯ เพื่อตอบสนองต่อข้อเสนอแนะ ความคิดเห็นจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเพื่อปรับปรุงให้เป็นไปตามข้อกำหนดกฎหมาย หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้ บริษัทฯ จะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องทราบอย่างชัดเจนก่อนจะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนแปลงทาง www.narathip.com/mainpage/policy หรืออาจส่งประกาศแจ้งเตือนให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยตรง

การใช้บังคับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตกลงและรับทราบว่า นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้มีผลใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่บริษัทฯ เป็นผู้เก็บรวบรวม และตกลงให้บริษัทฯ มีสิทธิในการเก็บ รักษา และนำข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รวบรวมไว้แล้ว (หากมี) ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ จัดเก็บในปัจจุบัน และที่จะได้จัดเก็บในอนาคต ไปใช้ หรือเปิดเผยแก่บุคคลอื่น ภายในขอบเขตตามที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้


ดร.นราธิป อ่ำเที่ยงตรง วิทยากร ที่ปรึกษาด้านการตลาด การบริการ การท่องเที่ยว การขาย การพัฒนาธุรกิจ องค์กรภาครัฐ เอกชน หลักสูตรอบรมสัมมนา อบรมสัมมนาภายในบริษัท หลักสูตรฝึกอบรม หลักสูตรสัมมนา การบริหารจัดการ ทักษะการขายและการตลาด

ดร.นราธิป อ่ำเที่ยงตรง,วิทยากร, ที่ปรึกษา, การตลาด, การบริการ, นราธิป อ่ำเที่ยงตรง,การท่องเที่ยว, การขาย, ฝึกอบรม, หลักสูตรสัมมนา, การพัฒนาธุรกิจ องค์กรภาครัฐและเอกชน

ดร.นราธิป อ่ำเที่ยงตรง วิทยากร ที่ปรึกษาด้านการตลาด การบริการ การท่องเที่ยว การขาย การพัฒนาธุรกิจ องค์กรภาครัฐ เอกชน หลักสูตรอบรมสัมมนา อบรมสัมมนาภายในบริษัท หลักสูตรฝึกอบรม หลักสูตรสัมมนา การบริหารจัดการ ทักษะการขายและการตลาด